วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561



บันทีกการเรียนรู้ครั้งที่   7 

วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561



( สัปดาห์ Midterm Exam วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 ถึง วันที่ 4 มีนาคม 2561 )






บันทีกการเรียนรู้ครั้งที่   6 

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561


เนื้อหาการเรียนการสอน

         วันนี้เป็นการเรียนสัปดาห์ที่ 6 ของรายวิชาการบริหารจัดการสถานศึกษาปฐมวัย บรรยากาศภายในห้องเรียนครึ้กครื้นมาก ก่อนจะเข้าเนื้อหาการเรียนการสอนอาจารย์ก็ได้พูดคุยกับนักศึกเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในขณะที่รอเพื่อนๆมาครบ หลังจากที่เพื่อนๆมาครบแล้วอาจารย์ก็ให้นักศึกษานำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหารเป็นรายบุคคลสัปดาห์ละ 3 คน

การนำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหารเป็นรายบุคคล

คนที่ 1 นางสาวจีรวรรณ  งามขำ




คนที่ 2 นางสาวมาลินี  ทวีพงศ์




คนที่ 3 นางสาวจิรญา  พัวโสภิต




            หลังจากนั้นอาจารย์ก็ให้นักศึกษาแต่ละคนออกมานำเสนอคุณสมบัติของผู้นำตามอักษรแต่ละตัวในชื่อของตนเอง

การนำเสนอคุณสมบัติชื่อของผู้นำของเพื่อนๆ
(ชื่อของดิฉัน)



 




 





ต่อไปเป็นการเข้าสู่เนื้อหาการเรียนการสอน เรื่อง โครงสร้างขององค์กรและการจักระบบบริหารสถานพัฒนาด็กปฐมวัย



โครงสร้างขององค์กรและการจัดระบบบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีลักษณะการบริหารเฉพาะตัว โดยที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
  1. นโยบาย และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
  2. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
  3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  4. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
  5. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  6. ปรัชญา นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
  7. ความต้องการของชุมชน

การจัดประเภท และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
1. การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
    1) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดเล็ก
    2) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดกลาง
    3) โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดใหญ่




2. การแบ่งตามรูปแบบตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ
            (พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 )พ.ศ. 2545 กล่าวไว้ใน มาตรา 15กำหนดการจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ)
            1.รูปแบบในระบบโรงเรียน
            2.รูปแบบนอกระบบโรงเรียน
            3.รูปแบบตามอัธยาศัย
3. รูปแบบการให้บริการแบบใหม่
            คือ การรวมเด็กที่ผิดปกติและเด็กปกติไว้ด้วยกัน โดยเรียกแบบนี้ว่า “Normalization”



หลักในการบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1. การบริหารงานวิชาการ
            เป็นการบริหารกิจกรรมทุกชนิดในโรงเรียน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาการสอนผู้เรียนให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุด

2. การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาปฐมวัย
            คือ การปฏิบัติการใช้คนให้ทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีขบวนการต่าง ๆ

3. การบริหารงานธุรการและการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
            - งานธุรการในสถานศึกษา
            - งานการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
            - งานสารบรรณในสถานศึกษาปฐมวัย
            - งานทะเบียนและรายงาน
            - งานรักษาความปลอดภัย
            - งานการเงินและพัสดุ
            - งานพัสดุ

4. การบริหารงานกิจการนักเรียนในสถานศึกษาปฐมวัย 
            คือ การดำเนินงาน เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในโรงเรียนโดยนักเรียนสมัครใจร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง

5. การบริหารสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัย
  - การบริหารสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
  - การบริหารสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมและประสบการณ์

การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในยุคปฏิรูป

ความหมาย การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)

            คือ การบริหารโดยกระจายอำนาจทางการศึกษาไปยังสถานศึกษาโดยตรงให้มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากที่สุด

หลักการในการบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน(School BasedManagement)
• หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
• หลักการมีส่วนร่วม (Participation or Collaboration Involvement)
• หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน( Return Power to People)
• หลักการบริหารตนเอง (Self - managing)
• หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance)

รูปแบบโรงเรียนที่ใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน
• ผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก (Administrative Control School Council )
• บริหารโดยครูเป็นหลัก (Professional Control Council)
• การบริหารจัดการโดยชุมชนมีบทบาท (Community Control School Council)
• ครูและชุมชนมีบทบาทหลัก (Professional Community Control School Council)

สรุปการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ( School-Based Management )

       การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management) เป็นการถ่ายโอนอำนาจจากหน่วยงานไปให้แก่โรงเรียนได้บริหารแบบ เบ็ดเสร็จที่โรงเรียนโดยมอบอำนาจการบริหารและจัดการศึกษาให้แก่ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งประกอบด้วยผู้ปกครอง    

องค์กรแห่งการเรียนรู้

ศาสตร์ทั้ง 5 ขององค์กรแห่งการเรียนรู้ (ปีเตอร์ เอ็ม. เซงเก (Peter M. Senge) )
• การใฝ่ใจพัฒนาตน (Personal Mastery)
• รูปแบบของความคิด (Mental Models)
• วิสัยทัศน์ร่วม (Shared Vision)
• การเรียนรู้เป็นทีม (Team Learning)
• การคิดเชิงระบบ (System Thinking)

การบริหารแบบมีส่วนร่วม
สาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
• การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
• การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการยอมรับในเป้าหมาย
• การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบ

ผลดีของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
• สร้างสรรค์ให้มีการระดมกำลังจากบุคคลต่าง ๆ
• สร้างบรรยากาศและพัฒนาประชาธิปไตยในการทำงาน
• ช่วยให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
• การบริหารแบบมีส่วนร่วม
• ผลงานที่เกิดขึ้น
• สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ

ข้อจำกัดของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
• การแสดงความคิดเห็นเกิดข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร
• ก่อให้เกิดกลุ่มอิทธิพล
• ผู้บริหารกลัวสูญเสียอำนาจ
• การบริหารงานไม่สามารถใช้กับงานที่เร่งด่วนได้
• ใช้งบประมาณมาก
• ความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
• การไม่เข้าใจหน้าที่มักจะทำให้เกิดการก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน



การวิเคราะห์เชิงปฏิบัติ  (SWOT Analysis Workshop)




กลยุทธ์ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน


เรามาเริ่มต้นด้วนการวิเคราะห์จุดแข็งS : Strengths

จุดแข็ง : Strengths

ตัวอย่าง

       - งานที่เราถนัด ทำแล้วมีความสุข

v     - งานที่โดดเด่นที่ชุมชนชื่นชอบ

v     - อะไรที่ชุมชนมีความต้องการให้เราทำซ้ำอีก

v     - ทรัพยากร และเครื่องมือที่เรามีความพร้อม

เรามาพิจารณาอีกมุมหนึ่งภายในขององค์กร ของเรา คือจุดอ่อนW : Weaknesses


จุดอ่อน : Weaknesses
ตัวอย่าง
  งานที่เราไม่สบายใจที่จะทำ
  ความต้องการที่จะรับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน หรือทักษะบางอย่างที่เรายังไม่มั่นใจ
  ขาดทรัพยากรในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย

หมายเหตุ

1.บางทีจุดอ่อนของเรามีความเชื่อมโยงกับจุดแข็ง

2.ยกตัวอย่าง....
นายแดงดี สีใส อ่านหนังสือไม่ออก แต่มีความชำนาญในการสาธิตการกรีดยางพารา

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการวิเคราะห์ประเมิน

ภายในองค์กรสมบูรณ์ครบถ้วน

  ด้วยการมองสภาพแวดล้อมภายนอก แล้วพิจารณาว่า องค์กรของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จ จากแผนโครงการพัฒนา ด้วยวิธีการทำงานใหม่นี้หรือไม่


เอาละ! ตอนนี้มาดูสิว่าอะไรน่าจะเป็น

อุปสรรค : Threats


หมายเหตุ

v การมองถึงอุปสรรค T ไม่ใช่ความคิดที่ไม่มีข้อพิสูจน์

v ใช่ว่าเรามองจะโลกในแง่ร้าย มากกว่าโอกาส เพราะว่าเราต้องใช้สรรพกำลังที่มีทำให้งานประสมความ
สำเร็จ โดยอาศัยปัจจัยด้านอื่นๆอีกสามด้าน คือ SWO

อุปสรรค : Threats
ตัวอย่าง
    ใครคือคู่แข่งขันที่ทำได้ดีกว่าเรา
    ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนจะทำให้แผนโครงการเรามีปัญหา
    ความขัดข้องที่จะเกิดจากเราเอง

สุดท้ายเรามาดู

โอกาส : Opportunities
ตัวอย่าง
  โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
  มีเครื่องมือใหม่ที่ได้รับการสนับสนุน
  มีช่องว่างทางการตลาดที่เรามองเห็น
  เครือข่ายมีศักยภาพทำให้งานสำเร็จง่ายขึ้น

หมายเหตุ

 โอกาสควรที่จะพิจารณาทั้งในระดับมหภาค(ระดับประเทศ ระหว่างประเทศ) และระดับจุลภาค(ระดับครัวเรียน/ระดับหมู่บ้าน/ระดับตำบล)

การสร้างแผนปฏิบัติ

ขั้นต่อไปเราจะทำอย่างไร

จุดแข็งของทุนเรามีอะไรบ้าง

จะป้องกันหรือลดจุดอ่อนอย่างไร

สร้างความได้เปรียบจากโอกาสอย่างไร

ระวังอุปสรรคอย่างไร


เราลองให้ความชัดเจนในหัวข้อต่อไปนี้

   ความหมายและวัตถุประสงค์ของการทำ SWOT

   สามารถแก้ปัญหาพวกพ้องในการทำงานได้หรือไม่

   มีรูปแบบในการเปลี่ยนแปลงที่น่าเชื่อถือหรือไม่

   แนวทางกลยุทธ์สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้องค์กรของเราได้หรือไม่



การนำเอาไปประยุกต์ใช้

          ได้ความรู้ในเนื้อหาการเรียนเพื่อที่จะนำเอาไปปรับใช้ในการวางแผนการบริหารได้จริง และยังสามารถนำข้อมูลในเนื้อหาต่างๆไปปรับใช้ในการสอนเด็กได้ และยังได้รับความรู้เกี่ยวกับประเภทของสถานศึกษาต่างๆ เพื่อรู้เกี่ยวกับการเรียนการสอนและการบริหารของสถานศึกษาแต่ละประเภทเพื่อที่จะได้นำความรู้เล็กๆน้อยๆไปปรับใช้ในการสอนเด็กได้จริงในอนาคต

ประเมินผล

ประเมินตนเอง

          แต่งการสุภาพเรียบร้อย มาตรงต่อเวลา ตั้งใจเรียนและฟังขณะที่อาจารย์กำลังสอน ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามหรือทำกิจกรรมต่างๆ

ประเมินเพื่อน

          เพื่อนแต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาตรงต่อเวลา ตั่งใจฟังอาจารย์ในขณะที่อาจารย์สอน ให้ความร่วมมือในขณะทำกิจกรรมอย่างเต็มที่

ประเมินอาจารย์

          อาจารย์แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาตรงต่อเวลา พูดจาไพเราะเป็นกันเอง อาจารย์เตรียมเนื้อหาการสอนมาได้ดีและเข้าใจง่าย อาจารย์มีเทคนิกการสอนที่ให้นักศึกษาได้เรียนรู้และเข้าใจง่าย