วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561
เนื้อหาการเรียนการสอน
วันนี้เป็นการเรียนสัปดาห์ที่ 6 ของรายวิชาการบริหารจัดการสถานศึกษาปฐมวัย บรรยากาศภายในห้องเรียนครึ้กครื้นมาก ก่อนจะเข้าเนื้อหาการเรียนการสอนอาจารย์ก็ได้พูดคุยกับนักศึกเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในขณะที่รอเพื่อนๆมาครบ หลังจากที่เพื่อนๆมาครบแล้วอาจารย์ก็ให้นักศึกษานำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหารเป็นรายบุคคลสัปดาห์ละ 3 คน
การนำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหารเป็นรายบุคคล
คนที่ 1 นางสาวจีรวรรณ งามขำ
คนที่ 2 นางสาวมาลินี ทวีพงศ์
คนที่ 3 นางสาวจิรญา พัวโสภิต
หลังจากนั้นอาจารย์ก็ให้นักศึกษาแต่ละคนออกมานำเสนอคุณสมบัติของผู้นำตามอักษรแต่ละตัวในชื่อของตนเอง
การนำเสนอคุณสมบัติชื่อของผู้นำของเพื่อนๆ
(ชื่อของดิฉัน)
ต่อไปเป็นการเข้าสู่เนื้อหาการเรียนการสอน เรื่อง โครงสร้างขององค์กรและการจักระบบบริหารสถานพัฒนาด็กปฐมวัย
โครงสร้างขององค์กรและการจัดระบบบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
มีลักษณะการบริหารเฉพาะตัว โดยที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1. นโยบาย
และยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาล
2. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
4. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
5. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
6. ปรัชญา
นโยบายและวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา
7. ความต้องการของชุมชน
การจัดประเภท
และรูปแบบสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในประเทศไทย
1.
การจัดแบ่งตามโครงสร้างการบริหารตามขนาด แบ่งเป็น 3 ขนาด คือ
1)
โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดเล็ก
2)
โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดกลาง
3)
โครงสร้างบริหารสถานศึกษาปฐมวัยขนาดใหญ่
2.
การแบ่งตามรูปแบบตามพระราชบัญญัติการศึกษาชาติ
(พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 )พ.ศ. 2545 กล่าวไว้ใน มาตรา
15กำหนดการจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ)
1.รูปแบบในระบบโรงเรียน
2.รูปแบบนอกระบบโรงเรียน
3.รูปแบบตามอัธยาศัย
3.
รูปแบบการให้บริการแบบใหม่
คือ การรวมเด็กที่ผิดปกติและเด็กปกติไว้ด้วยกัน
โดยเรียกแบบนี้ว่า “Normalization”
หลักในการบริหารงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
1.
การบริหารงานวิชาการ
เป็นการบริหารกิจกรรมทุกชนิดในโรงเรียน
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงพัฒนาการสอนผู้เรียนให้ได้ผลดีและมีประสิทธิภาพที่สุด
2.
การบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาปฐมวัย
คือ การปฏิบัติการใช้คนให้ทำงาน
อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีขบวนการต่าง ๆ
3.
การบริหารงานธุรการและการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
-
งานธุรการในสถานศึกษา
-
งานการเงินในสถานศึกษาปฐมวัย
-
งานสารบรรณในสถานศึกษาปฐมวัย
-
งานทะเบียนและรายงาน
-
งานรักษาความปลอดภัย
-
งานการเงินและพัสดุ
-
งานพัสดุ
4.
การบริหารงานกิจการนักเรียนในสถานศึกษาปฐมวัย
คือ การดำเนินงาน
เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมในโรงเรียนโดยนักเรียนสมัครใจร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาตนเอง
5. การบริหารสภาพแวดล้อมในสถานศึกษาปฐมวัย
- การบริหารสภาพแวดล้อมทางกายภาพ
- การบริหารสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมและประสบการณ์
การบริหารสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยในยุคปฏิรูป
ความหมาย
การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management)
คือ
การบริหารโดยกระจายอำนาจทางการศึกษาไปยังสถานศึกษาโดยตรงให้มีอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากที่สุด
หลักการในการบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน(School BasedManagement)
• หลักการกระจายอำนาจ
(Decentralization)
• หลักการมีส่วนร่วม
(Participation
or Collaboration Involvement)
• หลักการคืนอำนาจจัดการศึกษาให้ประชาชน( Return Power to People)
• หลักการบริหารตนเอง
(Self -
managing)
• หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล
(Check and
Balance)
รูปแบบโรงเรียนที่ใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน
• ผู้บริหารโรงเรียนเป็นหลัก (Administrative Control School
Council )
• บริหารโดยครูเป็นหลัก (Professional Control Council)
• การบริหารจัดการโดยชุมชนมีบทบาท (Community Control School Council)
• ครูและชุมชนมีบทบาทหลัก (Professional Community Control
School Council)
สรุปการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ( School-Based Management )
การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School-Based Management) เป็นการถ่ายโอนอำนาจจากหน่วยงานไปให้แก่โรงเรียนได้บริหารแบบ เบ็ดเสร็จที่โรงเรียนโดยมอบอำนาจการบริหารและจัดการศึกษาให้แก่ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งประกอบด้วยผู้ปกครอง
องค์กรแห่งการเรียนรู้
ศาสตร์ทั้ง 5 ขององค์กรแห่งการเรียนรู้ (ปีเตอร์ เอ็ม. เซงเก (Peter M. Senge) )
• การใฝ่ใจพัฒนาตน
(Personal
Mastery)
• รูปแบบของความคิด
(Mental
Models)
• วิสัยทัศน์ร่วม
(Shared
Vision)
• การเรียนรู้เป็นทีม
(Team
Learning)
• การคิดเชิงระบบ
(System
Thinking)
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
สาระสำคัญของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
• การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
• การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดการยอมรับในเป้าหมาย
• การมีส่วนร่วมช่วยให้เกิดความสำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบ
ผลดีของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
•
สร้างสรรค์ให้มีการระดมกำลังจากบุคคลต่าง ๆ
•
สร้างบรรยากาศและพัฒนาประชาธิปไตยในการทำงาน
• ช่วยให้ลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงาน
•
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
•
ผลงานที่เกิดขึ้น
•
สร้างความสมดุลระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ
ข้อจำกัดของการบริหารแบบมีส่วนร่วม
• การแสดงความคิดเห็นเกิดข้อขัดแย้งกับฝ่ายบริหาร
• ก่อให้เกิดกลุ่มอิทธิพล
• ผู้บริหารกลัวสูญเสียอำนาจ
• การบริหารงานไม่สามารถใช้กับงานที่เร่งด่วนได้
• ใช้งบประมาณมาก
• ความคิดเห็นจากบุคคลภายนอกไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
• การไม่เข้าใจหน้าที่มักจะทำให้เกิดการก้าวก่ายหน้าที่ซึ่งกันและกัน
การวิเคราะห์เชิงปฏิบัติ (SWOT Analysis Workshop)
กลยุทธ์ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน
เรามาเริ่มต้นด้วนการวิเคราะห์จุดแข็งS : Strengths
จุดแข็ง : Strengths
ตัวอย่าง
- งานที่เราถนัด ทำแล้วมีความสุข
v - งานที่โดดเด่นที่ชุมชนชื่นชอบ
v - อะไรที่ชุมชนมีความต้องการให้เราทำซ้ำอีก
v - ทรัพยากร และเครื่องมือที่เรามีความพร้อม
เรามาพิจารณาอีกมุมหนึ่งภายในขององค์กร ของเรา คือจุดอ่อนW : Weaknesses
จุดอ่อน
: Weaknesses
ตัวอย่าง
▼ งานที่เราไม่สบายใจที่จะทำ
▼ ความต้องการที่จะรับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน
หรือทักษะบางอย่างที่เรายังไม่มั่นใจ
▼ ขาดทรัพยากรในการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
หมายเหตุ
1.บางทีจุดอ่อนของเรามีความเชื่อมโยงกับจุดแข็ง
2.ยกตัวอย่าง....
นายแดงดี สีใส
อ่านหนังสือไม่ออก แต่มีความชำนาญในการสาธิตการกรีดยางพารา
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการวิเคราะห์ประเมิน
ภายในองค์กรสมบูรณ์ครบถ้วน
∆ ด้วยการมองสภาพแวดล้อมภายนอก แล้วพิจารณาว่า
องค์กรของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จ จากแผนโครงการพัฒนา
ด้วยวิธีการทำงานใหม่นี้หรือไม่
เอาละ! ตอนนี้มาดูสิว่าอะไรน่าจะเป็น
อุปสรรค : Threats
หมายเหตุ
v
การมองถึงอุปสรรค
T ไม่ใช่ความคิดที่ไม่มีข้อพิสูจน์
v
ใช่ว่าเรามองจะโลกในแง่ร้าย
มากกว่าโอกาส
เพราะว่าเราต้องใช้สรรพกำลังที่มีทำให้งานประสมความ
สำเร็จ
โดยอาศัยปัจจัยด้านอื่นๆอีกสามด้าน คือ SWO
อุปสรรค : Threats
ตัวอย่าง
♣ ใครคือคู่แข่งขันที่ทำได้ดีกว่าเรา
♣ ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนจะทำให้แผนโครงการเรามีปัญหา
♣ ความขัดข้องที่จะเกิดจากเราเอง
สุดท้ายเรามาดู
โอกาส : Opportunities
ตัวอย่าง
▲
โอกาสที่กำลังจะเกิดขึ้น
ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ
▲
มีเครื่องมือใหม่ที่ได้รับการสนับสนุน
▲
มีช่องว่างทางการตลาดที่เรามองเห็น
▲
เครือข่ายมีศักยภาพทำให้งานสำเร็จง่ายขึ้น
หมายเหตุ
• โอกาสควรที่จะพิจารณาทั้งในระดับมหภาค(ระดับประเทศ
ระหว่างประเทศ) และระดับจุลภาค(ระดับครัวเรียน/ระดับหมู่บ้าน/ระดับตำบล)
การสร้างแผนปฏิบัติ
- ขั้นต่อไปเราจะทำอย่างไร
- จุดแข็งของทุนเรามีอะไรบ้าง
- จะป้องกันหรือลดจุดอ่อนอย่างไร
- สร้างความได้เปรียบจากโอกาสอย่างไร
- ระวังอุปสรรคอย่างไร
เราลองให้ความชัดเจนในหัวข้อต่อไปนี้
• ความหมายและวัตถุประสงค์ของการทำ
SWOT
• สามารถแก้ปัญหาพวกพ้องในการทำงานได้หรือไม่
• มีรูปแบบในการเปลี่ยนแปลงที่น่าเชื่อถือหรือไม่
• แนวทางกลยุทธ์สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้องค์กรของเราได้หรือไม่
การนำเอาไปประยุกต์ใช้
ได้ความรู้ในเนื้อหาการเรียนเพื่อที่จะนำเอาไปปรับใช้ในการวางแผนการบริหารได้จริง และยังสามารถนำข้อมูลในเนื้อหาต่างๆไปปรับใช้ในการสอนเด็กได้ และยังได้รับความรู้เกี่ยวกับประเภทของสถานศึกษาต่างๆ เพื่อรู้เกี่ยวกับการเรียนการสอนและการบริหารของสถานศึกษาแต่ละประเภทเพื่อที่จะได้นำความรู้เล็กๆน้อยๆไปปรับใช้ในการสอนเด็กได้จริงในอนาคต
ประเมินผล
ประเมินตนเอง
แต่งการสุภาพเรียบร้อย มาตรงต่อเวลา ตั้งใจเรียนและฟังขณะที่อาจารย์กำลังสอน ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามหรือทำกิจกรรมต่างๆ
ประเมินเพื่อน
เพื่อนแต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาตรงต่อเวลา ตั่งใจฟังอาจารย์ในขณะที่อาจารย์สอน ให้ความร่วมมือในขณะทำกิจกรรมอย่างเต็มที่
ประเมินอาจารย์
อาจารย์แต่งกายสุภาพเรียบร้อย มาตรงต่อเวลา พูดจาไพเราะเป็นกันเอง อาจารย์เตรียมเนื้อหาการสอนมาได้ดีและเข้าใจง่าย อาจารย์มีเทคนิกการสอนที่ให้นักศึกษาได้เรียนรู้และเข้าใจง่าย